บริการการออกแบบระบบแก๊ส ราคาไม่แพง เลือกอุปกรณ์แก๊ส การติดตั้งระบบแก๊สร้านอาหาร


ระบบดูดควัน

การออกแบบระบบแก๊ส และเลือกอุปกรณ์แก๊ส ระบบแก๊สห้องครัว

การเลือกใช้อุปกรณ์แก๊ส เช่น ถังแก๊ส ท่อแก๊ส และหัวเตา ชุดติดตั้งระบบแก๊สแบบ 4 ถัง เป็นเรื่องสำคัญที่มีผลต่อความปลอดภัย ประสิทธิภาพการทำงาน และต้นทุนของร้านอาหารแต่ละประเภท เนื่องจากร้านอาหารแต่ละแบบมีลักษณะการทำงานและความต้องการที่แตกต่างกัน การเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงได้อย่างมาก ในบทความนี้เราจะมาแนะนำการเลือกใช้อุปกรณ์แก๊สสำหรับร้านอาหารประเภทต่าง ๆ

หากมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การออกแบบครัว โปรดแจ้งให้ทราบได้เลยค่ะ! สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณา ติดต่อ

ที่เหมาะสมกับประเภทของร้านอาหาร

1. ถังแก๊ส

ถังแก๊สเป็นหัวใจหลักของระบบแก๊สในร้านอาหาร มีหลายขนาดให้เลือกตามความต้องการของร้านอาหาร แต่ละประเภทมีความเหมาะสมแตกต่างกันดังนี้:

  • ร้านอาหารขนาดเล็ก (เช่น ร้านก๋วยเตี๋ยวหรือร้านข้าวราดแกง)
    • ควรเลือกใช้ถังแก๊สขนาดเล็ก เช่น 15 กิโลกรัม หรือ 7 กิโลกรัม เพราะเหมาะกับการใช้งานที่ไม่หนักหน่วง ลดความเสี่ยงในการขนย้ายและจัดเก็บ
  • ร้านอาหารขนาดกลางถึงใหญ่ (เช่น ร้านอาหารจีนหรือร้านบุฟเฟต์)
    • ควรเลือกถังแก๊สขนาด 48 กิโลกรัมขึ้นไป เพื่อรองรับการใช้งานอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ลดความถี่ในการเปลี่ยนถังแก๊ส
  • ร้านอาหารที่ใช้งานหนักและมีหลายหัวเตา
    • อาจต้องติดตั้งถังแก๊สหลายใบพร้อมระบบวาล์วควบคุมเพื่อกระจายแรงดันอย่างเหมาะสม

2. ท่อแก๊ส

ท่อแก๊สเป็นส่วนสำคัญในการเชื่อมต่อระหว่างถังแก๊สและหัวเตา ต้องเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงและเหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน:

  • วัสดุของท่อแก๊ส
    • เลือกใช้ท่อแก๊สที่ทำจากยางเกรดคุณภาพสูง มีความยืดหยุ่นและทนต่อแรงดันได้ดี
    • ในกรณีร้านอาหารที่ต้องการความทนทานสูง อาจใช้ท่อแก๊สโลหะที่มีฉนวนกันความร้อน
  • ความยาวของท่อแก๊ส
    • ควรเลือกความยาวที่พอเหมาะ ไม่ควรยาวเกินไปเพื่อป้องกันการรั่วไหลและแรงดันที่ลดลง
    • หากต้องการเดินระบบแก๊สที่ซับซ้อน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อติดตั้งระบบอย่างปลอดภัย

image

3. หัวเตาแก๊ส

หัวเตาแก๊สมีหลายประเภท แต่ละแบบมีจุดเด่นและการใช้งานที่เหมาะสมกับอาหารประเภทต่าง ๆ:

หัวเตาแก๊สไทย

  • เหมาะสำหรับ: อาหารไทย เช่น การผัด ต้ม หรือทอด
  • คุณสมบัติ:
    • ให้ความร้อนปานกลางถึงสูง
    • ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับเมนูที่ต้องการควบคุมความร้อนอย่างละเอียด
  • ข้อดี:
    • ประหยัดแก๊ส
    • ซ่อมบำรุงง่าย

หัวเตาแก๊สจีน

  • เหมาะสำหรับ: อาหารจีน เช่น การผัดในกระทะเหล็ก (Wok)
  • คุณสมบัติ:
    • ให้ความร้อนสูงมาก เหมาะสำหรับการทำอาหารที่ต้องใช้ไฟแรง
    • ดีไซน์หัวเตาเปิดกว้างเพื่อรองรับกระทะขนาดใหญ่
  • ข้อดี:
    • ทำอาหารได้รวดเร็ว
    • เพิ่มรสชาติให้กับอาหารด้วยเทคนิคการทำอาหารจีน

หัวเตาแก๊สแรงดันสูง

  • เหมาะสำหรับ: ร้านอาหารบุฟเฟต์ ปิ้งย่าง หรือการประกอบอาหารในปริมาณมาก
  • คุณสมบัติ:
    • ให้ความร้อนสูงมาก เหมาะสำหรับอาหารที่ต้องการการปรุงอย่างรวดเร็ว
    • มีวาล์วควบคุมแรงดันช่วยเพิ่มความปลอดภัย
  • ข้อดี:
    • รองรับการทำอาหารต่อเนื่อง
    • ลดเวลาการประกอบอาหาร

4. เคล็ดลับในการเลือกอุปกรณ์แก๊ส

  • ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย
    • ทุกอุปกรณ์แก๊สควรได้รับการรับรองมาตรฐาน เช่น มอก. (มาตรฐานอุตสาหกรรม)
    • เลือกซื้อจากผู้จัดจำหน่ายที่เชื่อถือได้
  • ประเมินการใช้งานของร้านอาหาร
    • วิเคราะห์เมนูอาหารและความต้องการความร้อนเพื่อเลือกหัวเตาที่เหมาะสม
    • ประเมินจำนวนลูกค้าต่อวันเพื่อเลือกขนาดถังแก๊สที่เหมาะสม
  • จัดการการบำรุงรักษา
    • ควรตรวจสอบถังแก๊ส ท่อแก๊ส และหัวเตาเป็นประจำเพื่อป้องกันการชำรุด
    • ทำความสะอาดหัวเตาหลังการใช้งานเพื่อลดการสะสมของคราบไขมัน

การเลือกใช้อุปกรณ์แก๊สที่เหมาะสมกับประเภทของร้านอาหารเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ร้านอาหารแต่ละประเภทมีความต้องการเฉพาะทางที่แตกต่างกัน ตั้งแต่การเลือกขนาดถังแก๊สที่เหมาะสม วัสดุของท่อแก๊ส ไปจนถึงหัวเตาที่รองรับการปรุงอาหารแต่ละแบบได้ดี การวางแผนและเลือกใช้อุปกรณ์ที่ถูกต้องไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประกอบอาหาร แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย ดังนั้น ร้านอาหารควรให้ความสำคัญกับการเลือกอุปกรณ์แก๊สที่เหมาะสมตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อประโยชน์สูงสุดในระยะยาว

หากมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การออกแบบครัว โปรดแจ้งให้ทราบได้เลยค่ะ! สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณา ติดต่อ

การออกแบบท่อแก๊สสำหรับร้านอาหาร ระบบแก๊สร้านอาหาร

ควรคำนึงถึงความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความเหมาะสมกับประเภทของร้านอาหาร ต่อไปนี้คือแนวทางการออกแบบที่สามารถปรับใช้ได้

image

1. การวางแผนระบบท่อแก๊ส

  • การกำหนดเส้นทางท่อแก๊ส:
    • ออกแบบเส้นทางให้เรียบง่ายและสั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อลดการสูญเสียแรงดัน
    • หลีกเลี่ยงการเดินท่อใกล้แหล่งความร้อนสูงหรือพื้นที่เสี่ยงไฟไหม้
    • คำนึงถึงการเข้าถึงสำหรับการตรวจสอบและซ่อมบำรุง
  • การแยกโซนการใช้งาน:
    • แบ่งโซนการใช้งานตามพื้นที่ เช่น โซนเตาแก๊สสำหรับผัด โซนเตาแก๊สสำหรับต้ม
    • ใช้ตัวควบคุมแรงดันแยกสำหรับแต่ละโซนเพื่อความปลอดภัย

2. วัสดุและอุปกรณ์

  • ใช้ท่อแก๊สที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง เช่น ท่อโลหะเคลือบกันสนิมสำหรับระบบภายใน หรือท่อยางคุณภาพสูงสำหรับการเชื่อมต่อระยะสั้น
  • ติดตั้งวาล์วปิด-เปิด (Shut-off Valve) ที่ทุกจุดเชื่อมต่อ เพื่อความสะดวกในการซ่อมบำรุง
  • เลือกใช้หัวเชื่อมต่อที่ได้มาตรฐาน เช่น ข้อต่อทองเหลืองหรือสเตนเลส เพื่อป้องกันการรั่วซึม

3. การติดตั้ง

  • ท่อแก๊สใต้ดิน:
    • หากต้องการเดินระบบใต้ดิน ควรใช้ท่อโลหะหุ้มฉนวน และติดตั้งในลักษณะลาดเอียงเพื่อป้องกันการสะสมของแก๊ส
    • ใช้ท่อคู่ขนานเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
  • ท่อแก๊สเหนือพื้นดิน:
    • ยึดติดกับผนังหรือโครงสร้างที่มั่นคง
    • ใช้คลิปยึดที่ทนความร้อนและแรงดัน
  • ติดตั้งระบบระบายอากาศในพื้นที่ที่มีการเดินท่อแก๊ส เพื่อป้องกันการสะสมของแก๊สในกรณีรั่วไหล

4. ระบบควบคุมแรงดัน

  • ติดตั้ง Regulator สำหรับปรับแรงดันแก๊สให้เหมาะสมกับหัวเตาแต่ละประเภท
  • ใช้เกจวัดแรงดันที่ติดตั้งใกล้ถังแก๊สและหัวเตา เพื่อช่วยตรวจสอบการทำงานของระบบ

5. ความปลอดภัย

  • ติดตั้ง Gas Leak Detector ในพื้นที่สำคัญ เช่น ใกล้เตาแก๊สและถังแก๊ส
  • จัดให้มีทางหนีไฟและระบบดับเพลิง เช่น ถังดับเพลิงชนิด CO2 หรือผงเคมีแห้ง
  • ให้พนักงานผ่านการอบรมการใช้แก๊สและการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

6. การตรวจสอบและบำรุงรักษา

  • ตรวจสอบระบบท่อแก๊สทุก 6 เดือนหรือทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนอุปกรณ์
  • ทำความสะอาดหัวเตาและข้อต่อเพื่อป้องกันการอุดตัน
  • เปลี่ยนท่อแก๊สที่มีรอยแตกร้าวหรือเสื่อมสภาพ

คุณสามารถใช้แนวทางนี้ในการออกแบบระบบท่อแก๊สที่เหมาะสมกับร้านอาหารของคุณ หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมหรือต้องการแบบแปลนเฉพาะ โปรดแจ้งมาเพื่อช่วยปรับแต่งครับ

หากมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การออกแบบครัว โปรดแจ้งให้ทราบได้เลยค่ะ! สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณา ติดต่อ