แนะนำรายการอุปกรณ์ เครื่องใช้ในครัว เครื่องครัวสแตนเลส ร้านอาหาร



แนะนำรายการอุปกรณ์ เครื่องใช้ในครัว เครื่องครัวสแตนเลส

การเลือกใช้อุปกรณ์และเครื่องครัวสแตนเลสในร้านอาหารหรือครัวเชิงพาณิชย์เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะวัสดุสแตนเลสมีความทนทาน ดูแลรักษาง่าย และเหมาะสำหรับการใช้งานในครัวที่มีการใช้งานหนัก นี่คือ รายการอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวสแตนเลส ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในร้านอาหาร

หากมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การออกแบบครัว โปรดแจ้งให้ทราบได้เลยค่ะ! สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณา ติดต่อ

1. อุปกรณ์พื้นฐานสำหรับเตรียมอาหาร

  1. โต๊ะเตรียมอาหารสแตนเลส
    • ขนาดปรับตามพื้นที่ครัว
    • บางรุ่นมีลิ้นชักหรือชั้นวางของด้านล่าง
  2. ชั้นวางสแตนเลส
    • สำหรับเก็บภาชนะ วัตถุดิบ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ
    • มีทั้งแบบติดผนังและตั้งพื้น
  3. ซิงก์ล้างจานสแตนเลส
    • ขนาด 1 หลุม, 2 หลุม หรือ 3 หลุม (ขึ้นอยู่กับขนาดร้าน)
    • ควรมีที่พักจานด้านข้าง

2. อุปกรณ์สำหรับการปรุงอาหาร

  1. เตาสแตนเลส
    • เตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้าแบบหลายหัว (2-6 หัว)
    • เตาอบแก๊ส/ไฟฟ้าในตัวสำหรับร้านที่ต้องใช้เบเกอรี่
  2. กระทะและหม้อสแตนเลส
    • กระทะก้นแบน/ก้นลึก
    • หม้อสแตนเลสหลากขนาด พร้อมฝาปิด
  3. หม้อไอน้ำ/หม้อนึ่งสแตนเลส
    • สำหรับอาหารนึ่ง เช่น ติ่มซำ หรืออาหารเพื่อสุขภาพ
  4. เตาย่าง (Grill) สแตนเลส
    • สำหรับการย่างเนื้อหรือผัก
  5. เตาทอด (Deep Fryer) สแตนเลส
    • มีทั้งแบบ 1 ถังหรือ 2 ถัง ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งาน

3. อุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและแช่เย็น

  1. ตู้เย็น/ตู้แช่แข็งสแตนเลส
    • ขนาดขึ้นอยู่กับปริมาณวัตถุดิบที่ต้องเก็บ
    • มีทั้งแบบประตูบานเปิดและแบบเคาน์เตอร์
  2. ตู้เก็บของแห้งสแตนเลส
    • ป้องกันฝุ่นและความชื้น
  3. ชั้นวางอเนกประสงค์
    • สำหรับเก็บภาชนะที่ไม่ต้องแช่เย็น เช่น ขวดซอส เครื่องปรุง

4. อุปกรณ์สำหรับการล้างทำความสะอาด

  1. รถเข็นสแตนเลส
    • ใช้สำหรับเคลื่อนย้ายอาหารหรือภาชนะในครัว
  2. เครื่องล้างจานสแตนเลส
    • เหมาะสำหรับร้านที่มีปริมาณภาชนะมาก
  3. ถังขยะสแตนเลส
    • แบบมีฝาปิดเพื่อความสะอาด

5. อุปกรณ์เสริมอื่น ๆ

  1. ช้อน ตะหลิว และที่คีบสแตนเลส
    • สำหรับการปรุงอาหารและตักเสิร์ฟ
  2. ถาดสแตนเลส
    • ใช้สำหรับวางอาหารหรือส่วนประกอบระหว่างการเตรียม
  3. กล่องเก็บอาหารสแตนเลส
    • สำหรับจัดเก็บวัตถุดิบที่ต้องการความสะอาด
  4. หม้ออัดแรงดันสแตนเลส
    • สำหรับการทำอาหารที่ต้องใช้เวลาเคี่ยวหรืออบ

6. อุปกรณ์สำหรับความปลอดภัยและการทำความสะอาด

  1. เครื่องดูดควันสแตนเลส
    • ช่วยระบายอากาศและลดควันในครัว
  2. ที่กั้นน้ำมันกระเด็นสแตนเลส
    • สำหรับการทอดหรือผัด
  3. พื้นกันลื่นสแตนเลส
    • เพิ่มความปลอดภัยในการเดิน

คุณสมบัติเด่นของเครื่องครัวสแตนเลส

  • ความทนทาน: ทนต่อการกัดกร่อน ความร้อน และความชื้น
  • ทำความสะอาดง่าย: พื้นผิวเรียบ ไม่สะสมสิ่งสกปรก
  • ดูมืออาชีพ: ทำให้ครัวดูสะอาดและเป็นระเบียบ
  • ปรับแต่งได้: มีหลายขนาดและรูปแบบให้เลือก

การเลือกอุปกรณ์เครื่องครัวสแตนเลสขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของร้านอาหาร ควรวางแผนล่วงหน้าเพื่อจัดสรรพื้นที่และเลือกอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การทำงานในครัวคล่องตัวและสะดวกที่สุด!

รายการอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวสแตนเลส

เพื่อนร่วมงานครัวร้านอาหารเตรียมอาหาร

การออกแบบขนาดของครัวในร้านอาหารให้เหมาะสมกับจำนวนแขกและพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญ เพราะครัวที่มีขนาดเหมาะสมช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น ลดปัญหาความแออัด และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการ นี่คือแนวทางในการกำหนดขนาดของครัว

1. กำหนดสัดส่วนพื้นที่ระหว่างครัวและพื้นที่เสิร์ฟ

  • ครัวควรมีพื้นที่ประมาณ 20-40% ของพื้นที่ทั้งหมดของร้าน ขึ้นอยู่กับประเภทของร้าน เช่น:
    • ร้านอาหารขนาดเล็กหรือคาเฟ่: ครัวอาจใช้เพียง 20-25%
    • ร้านอาหารที่ต้องปรุงอาหารจำนวนมากหรือมีเมนูหลากหลาย: ควรใช้พื้นที่ 30-40%
  • พื้นที่ที่เหลือใช้สำหรับโซนเสิร์ฟและที่นั่งของลูกค้า

2. กำหนดขนาดครัวตามจำนวนที่นั่ง (Seats)

  • มีแนวทางทั่วไปในการคำนวณพื้นที่ครัวตามจำนวนที่นั่ง:
    • ร้านอาหารแบบ Casual Dining:
      ใช้พื้นที่ครัวประมาณ 0.5-0.8 ตารางเมตรต่อที่นั่ง
    • ร้านอาหารแบบ Fine Dining:
      ใช้พื้นที่ครัวประมาณ 1-1.5 ตารางเมตรต่อที่นั่ง
    • ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดหรือ Takeaway:
      ใช้พื้นที่ครัวน้อยกว่า คือประมาณ 0.3-0.5 ตารางเมตรต่อที่นั่ง

ตัวอย่าง: หากร้านมี 50 ที่นั่ง

  • ร้าน Casual Dining: ครัวควรมีขนาดประมาณ 25-40 ตารางเมตร
  • ร้าน Fine Dining: ครัวควรมีขนาด 50-75 ตารางเมตร

3. การแบ่งพื้นที่ในครัว

พื้นที่ในครัวควรแบ่งให้เหมาะสมกับกระบวนการทำงาน:

  1. โซนเตรียมอาหาร: ควรมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเตรียมวัตถุดิบ เช่น ผัก เนื้อ และเครื่องเทศ
  2. โซนปรุงอาหาร: พื้นที่สำหรับวางเตาอบ เตาแก๊ส เตาทอด และอุปกรณ์ทำอาหาร
  3. โซนล้างทำความสะอาด: ต้องมีซิงก์ล้างจานและพื้นที่สำหรับวางจานสะอาด
  4. โซนจัดเก็บ: ควรมีที่เก็บของแห้ง ตู้เย็น และช่องแช่แข็ง
  5. พื้นที่เดิน: ควรมีพื้นที่เดินในครัวกว้างประมาณ 90-120 ซม. เพื่อให้พนักงานทำงานสะดวก

4. พิจารณาปริมาณการสั่งอาหารและเวลาทำอาหาร

  • หากร้านมีแขกจำนวนมากในช่วงเวลาเร่งด่วน (เช่น ช่วงเที่ยงหรือเย็น) ครัวควรมีพื้นที่เพียงพอรองรับการเตรียมอาหารและพนักงาน
  • ประเภทอาหารที่เสิร์ฟมีผลต่อพื้นที่ เช่น ร้านที่ต้องปรุงอาหารซับซ้อนจะต้องการพื้นที่ครัวมากกว่า

5. ออกแบบครัวให้เหมาะสมกับอุปกรณ์

  • หากร้านมีอุปกรณ์ขนาดใหญ่ เช่น เตาอบอุตสาหกรรม หรือเครื่องล้างจาน ควรจัดพื้นที่ที่เหมาะสมให้พอสำหรับการใช้งาน
  • ต้องเว้นพื้นที่สำหรับการระบายอากาศและระบบความปลอดภัย เช่น เครื่องดูดควัน

6. ใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า

  • พิจารณาใช้ ชั้นวางแนวตั้ง หรือ ตู้แบบ Built-in เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของ
  • วางอุปกรณ์ที่ใช้งานบ่อยในตำแหน่งที่หยิบจับได้สะดวก

พ่อครัวเตรียมอาหาร

ตัวอย่างแนวคิดการปรับใช้

  • ร้านเล็ก (15-20 ที่นั่ง): ครัวประมาณ 10-15 ตารางเมตร
  • ร้านขนาดกลาง (30-50 ที่นั่ง): ครัวประมาณ 25-40 ตารางเมตร
  • ร้านใหญ่ (80-100 ที่นั่ง): ครัวประมาณ 50-80 ตารางเมตร

ขนาดของครัวที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับ จำนวนที่นั่งในร้าน พื้นที่ร้าน ประเภทของอาหาร และปริมาณแขกที่คาดว่าจะให้บริการ การวางแผนที่ดีจะช่วยลดปัญหาความแออัด เพิ่มความเร็วในการบริการ และทำให้การทำงานในครัวเป็นระบบมากขึ้น

หากมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การออกแบบครัว โปรดแจ้งให้ทราบได้เลยค่ะ! สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณา ติดต่อ