ระบบดูดควัน KRUGER พัดลมดูดอากาศและเติมอากาศในห้องครัว
ในระบบครัวร้านอาหาร พัดลมระบายอากาศ (Exhaust Fan) และ พัดลมเติมอากาศ (Make-up Air System) เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้การทำอาหารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดควัน กลิ่น และป้องกันปัญหาสุขภาพของพนักงาน รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากความร้อนและมลพิษทางอากาศภายในครัว
หากมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การออกแบบครัว โปรดแจ้งให้ทราบได้เลยค่ะ! สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณา ติดต่อ
พัดลมดูดอากาศในครัว KRUGER ความสำคัญ เทคโนโลยี และวิธีเลือกใช้
1. ความสำคัญของระบบระบายอากาศและเติมอากาศในห้องครัว
1.1 ป้องกันการสะสมของควันและไอร้อน
- เตาแก๊ส เตาทอด หรือเตาย่างสร้างควันและความร้อนจำนวนมาก หากไม่มีการระบายอากาศที่ดี อาจทำให้ครัวอบอ้าวและมีปริมาณ CO2 สูง
- พัดลมระบายอากาศช่วยดูดควันออกจากห้องครัว ลดการสะสมของเขม่าและไขมัน
1.2 ลดกลิ่นและมลพิษอากาศ
- ระบบระบายอากาศที่ดีช่วยขจัดกลิ่นจากอาหารปิ้งย่าง ทอด และแก๊สหุงต้ม ป้องกันไม่ให้กลิ่นไปรบกวนลูกค้าและพื้นที่โดยรอบ
1.3 ปรับสมดุลอากาศ (Air Balance)
- ห้องครัวต้องมีอากาศไหลเข้า (Make-up Air) และอากาศออก (Exhaust Air) ที่สมดุล
- หากมีแต่พัดลมดูดอากาศออก แต่ไม่มีอากาศใหม่เข้ามา อาจทำให้ครัวมี Negative Pressure ส่งผลให้ประตูดูดปิดยากหรืออากาศไหลย้อนกลับเข้ามาจากปล่องควัน
1.4 ป้องกันความเสี่ยงด้านสุขภาพ
- อากาศที่ไม่มีการหมุนเวียนที่ดีอาจทำให้พนักงานมีอาการวิงเวียน หายใจลำบาก หรือเกิดโรคทางเดินหายใจ
2. ประเภทของพัดลมระบายอากาศและพัดลมเติมอากาศ KRUGER
2.1 พัดลมระบายอากาศ (Exhaust Fan)
ใช้สำหรับ: ดูดควัน กลิ่น และไอร้อนออกจากห้องครัว
ประเภทหลัก:
✅ พัดลมติดผนัง (Wall-Mounted Exhaust Fan) – ใช้กับร้านขนาดเล็กและกลาง ดูดอากาศออกโดยตรง
✅ พัดลมติดหลังคา (Rooftop Exhaust Fan) – นิยมใช้ในร้านอาหารและครัวโรงแรม ช่วยดึงอากาศขึ้นสู่ภายนอก
✅ พัดลมแรงเหวี่ยง (Centrifugal Fan) – แรงดูดสูง เหมาะกับครัวที่ต้องการระบายอากาศปริมาณมาก
✅ พัดลมแบบ Inline Duct Fan – ติดตั้งภายในท่อระบายอากาศ ลดเสียงรบกวน
2.2 พัดลมเติมอากาศ (Make-up Air System)
ใช้สำหรับ: เติมอากาศบริสุทธิ์เข้ามาทดแทนอากาศที่ถูกดูดออกไป
✅ พัดลมเติมอากาศติดผนัง (Wall-Mounted Make-up Air Fan) – ติดตั้งภายนอกอาคาร ดึงอากาศเข้ามาโดยตรง
✅ พัดลมเติมอากาศแบบมีระบบกรอง (Filtered Make-up Air Unit) – ดึงอากาศจากภายนอกและกรองฝุ่น ควัน และมลพิษก่อนเข้าสู่ครัว
✅ HVAC และ ERV (Energy Recovery Ventilator) – ระบบระบายอากาศพร้อมปรับอุณหภูมิของอากาศที่เติมเข้ามา
3. วิธีเลือก KRUGER พัดลมระบายอากาศและเติมอากาศให้เหมาะสม
3.1 คำนวณปริมาณอากาศที่ต้องระบายและเติมเข้า
- ใช้ค่า Air Changes Per Hour (ACH) ซึ่งหมายถึงจำนวนครั้งที่อากาศภายในห้องถูกถ่ายเทในหนึ่งชั่วโมง
- ร้านอาหารทั่วไปต้องการ ACH 15-30 ครั้งต่อชั่วโมง
- สูตรคำนวณ:
CFM = (ปริมาตรห้องเป็นลูกบาศก์ฟุต × ACH) ÷ 60
ตัวอย่าง
ร้านอาหารมีห้องครัวขนาด 20 x 20 x 10 ฟุต → ปริมาตรห้อง = 4,000 ลูกบาศก์ฟุต
ต้องการ ACH = 20
CFM = (4,000 × 20) ÷ 60 = 1,333 CFM
- พัดลมระบายอากาศและพัดลมเติมอากาศต้องมีอัตรา CFM ใกล้เคียงกัน เพื่อป้องกันแรงดันอากาศที่ไม่สมดุล
3.2 เลือกขนาดและประเภทพัดลมที่เหมาะสม
✅ ร้านอาหารขนาดเล็ก – Wall-Mounted หรือ Inline Exhaust Fan (~1,000 CFM)
✅ ร้านปิ้งย่างหรือครัวหนัก – Centrifugal หรือ Rooftop Exhaust (~2,000 – 4,000 CFM)
✅ ครัวโรงแรม – Multi-Zone Exhaust System + Make-up Air (~5,000+ CFM)
3.3 พิจารณาระบบกรองอากาศ
- ร้านอาหารที่มี ปริมาณควันและกลิ่นสูง ควรใช้ ESP (Electrostatic Precipitator) และ Activated Carbon Filter
- ครัวที่ต้องการอากาศสะอาดควรติดตั้ง HEPA หรือ UV-C Filter
3.4 ควบคุมเสียงรบกวน
- ควรเลือกพัดลมที่ระดับเสียงต่ำกว่า 75 dB
- พัดลม Inline Fan และ Centrifugal Fan มักเงียบกว่าแบบ Axial Fan
3.5 ระบบควบคุมอัจฉริยะ (Smart Ventilation System)
✅ Variable Speed Control (VSD) – ปรับรอบพัดลมอัตโนมัติตามปริมาณควัน
✅ IoT Monitoring – ตรวจสอบการทำงานผ่านแอป
✅ Auto Cleaning System – ระบบล้างไส้กรองอัตโนมัติ
4. ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหากระบบระบายอากาศไม่ดี
🚫 ควันและกลิ่นสะสม → ทำให้ร้านเหม็นอับ ส่งผลต่อประสบการณ์ลูกค้า
🚫 ห้องครัวร้อนเกินไป → พนักงานทำงานลำบาก เสี่ยงต่อสุขภาพ
🚫 อากาศไหลย้อนกลับ → ควันอาจไหลเข้าสู่พื้นที่รับประทานอาหาร
🚫 สิ้นเปลืองพลังงาน → หากไม่มีระบบควบคุมอัตโนมัติ อาจทำให้ค่าไฟสูงขึ้น
5. พัดลมดูดอากาศในครัว KRUGER
✅ พัดลมระบายอากาศ ช่วยขจัดควัน กลิ่น และไอร้อนออกจากห้องครัว
✅ พัดลมเติมอากาศ ปรับสมดุลอากาศภายใน ป้องกัน Negative Pressure
✅ เลือกระบบให้เหมาะสม ตามขนาดร้านและประเภทของการทำอาหาร
✅ ติดตั้งระบบกรองอากาศ เพื่อลดมลพิษและกลิ่นรบกวน
✅ ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อช่วยประหยัดพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพ
หากมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การออกแบบครัว โปรดแจ้งให้ทราบได้เลยค่ะ! สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณา ติดต่อ
KRUGER กับระบบกรองอากาศและลดกลิ่นควันในครัวร้านอาหาร
ในธุรกิจร้านอาหาร ระบบกรองอากาศและลดกลิ่นควันเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ร้านมีสภาพแวดล้อมที่สะอาด ลดปัญหามลพิษทางอากาศ และเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า KRUGER เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เชี่ยวชาญด้าน พัดลมดูดควัน พัดลมระบายอากาศ และระบบกรองอากาศ ที่ช่วยขจัดควัน กลิ่น และมลพิษจากครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. ความสำคัญของระบบกรองอากาศในร้านอาหาร
1.1 ลดควันและเขม่าน้ำมัน
- การทำอาหารโดยใช้เตาทอด ปิ้งย่าง หรือเตาแก๊สก่อให้เกิด ควันไขมัน (Grease Smoke) และ อนุภาคขนาดเล็ก (PM2.5 และ PM10) ซึ่งอาจสะสมในครัวและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
1.2 ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์
- กลิ่นอาหารจากการย่าง ทอด และเผาไหม้อาจกระจายออกนอกครัว ส่งผลกระทบต่อบริเวณใกล้เคียง หากไม่มีระบบกรองกลิ่นที่ดี
1.3 ป้องกันการอุดตันของปล่องควัน
- ครัวที่ไม่มีระบบกรองอากาศที่เหมาะสม ไขมันและเขม่าควันอาจสะสมในท่อระบายอากาศ ทำให้เกิด ความเสี่ยงไฟไหม้และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูง
1.4 สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น
- อากาศในครัวที่สะอาดช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดอาการระคายเคืองจากควัน
2. เทคโนโลยีระบบกรองอากาศของ KRUGER
KRUGER มีระบบกรองอากาศที่สามารถใช้ร่วมกับ พัดลมดูดควันและพัดลมระบายอากาศ เพื่อขจัดควัน กลิ่น และมลพิษทางอากาศ โดยใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ดังนี้
2.1 Grease Filter – ไส้กรองไขมัน
📌 หน้าที่: กรองละอองไขมันที่เกิดจากการทอดและย่าง ลดการสะสมของไขมันในปล่องควัน
📌 เหมาะสำหรับ: ครัวที่ใช้เตาทอด เตาย่าง และเตาผัด
📌 ประเภทของไส้กรอง:
✅ Baffle Filter – แผ่นกรองสแตนเลสที่มีช่องดักจับไขมัน ใช้งานได้นานและล้างทำความสะอาดง่าย
✅ Mesh Filter – ไส้กรองตาข่ายละเอียดที่ช่วยดักจับละอองไขมันขนาดเล็ก
2.2 Electrostatic Precipitator (ESP) – ระบบดักจับอนุภาคไฟฟ้าสถิต
📌 หน้าที่: ใช้ไฟฟ้าสถิตเพื่อดักจับอนุภาคควันและไขมันในอากาศ กรองควันขนาดเล็ก (PM2.5) ออกจากครัว
📌 เหมาะสำหรับ: ร้านอาหารปิ้งย่าง ร้านหมูกระทะ และครัวที่มีควันจำนวนมาก
📌 ข้อดี:
✅ กำจัดควันและไขมันได้มากกว่า 95%
✅ ช่วยลดการอุดตันของปล่องควัน
✅ สามารถล้างทำความสะอาดได้ ลดค่าใช้จ่ายระยะยาว
2.3 Activated Carbon Filter – ไส้กรองคาร์บอนกำจัดกลิ่น
📌 หน้าที่: ดูดซับโมเลกุลของกลิ่นจากการทำอาหาร เช่น กลิ่นควันปิ้งย่าง น้ำมัน และเผาไหม้
📌 เหมาะสำหรับ: ร้านอาหารที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า หรือพื้นที่ที่ต้องการควบคุมกลิ่น
📌 ข้อดี:
✅ ช่วยลดกลิ่นได้มากกว่า 90%
✅ สามารถใช้ร่วมกับ ESP หรือ UV-C Filter เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
2.4 UV-C และ Ozone Filter – ระบบกำจัดกลิ่นและฆ่าเชื้อ
📌 หน้าที่: ใช้แสง UV-C และโอโซนในการสลายโมเลกุลไขมันและกลิ่นควัน ลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย
📌 เหมาะสำหรับ: ครัวที่ต้องการการกรองกลิ่นระดับสูง เช่น ครัวโรงแรม และร้านอาหาร Fine Dining
📌 ข้อดี:
✅ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสในอากาศ
✅ ลดกลิ่นได้มากกว่า 95%
✅ ลดการสะสมของคราบไขมันในท่อระบายอากาศ
3. วิธีเลือกระบบกรองอากาศให้เหมาะกับร้านอาหาร
ประเภทของร้าน | ปัญหาหลัก | ระบบกรองอากาศที่แนะนำ |
---|---|---|
ร้านอาหารทั่วไป | ควัน ไขมัน | Grease Filter + ESP |
ร้านปิ้งย่าง หมูกระทะ | ควัน กลิ่นแรง | ESP + Carbon Filter |
ร้านฟาสต์ฟู้ด | กลิ่นน้ำมันทอด | Carbon Filter + UV-C |
ครัวโรงแรม | ควัน กลิ่น เชื้อโรค | ESP + UV-C + Ozone |
ร้านในห้างฯ | ควบคุมกลิ่น | Carbon Filter + Ozone |
4. การดูแลรักษาระบบกรองอากาศ
✅ ทำความสะอาดไส้กรองไขมัน (Grease Filter) ทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันการอุดตัน
✅ ล้างแผ่น ESP ทุก 3-6 เดือน เพื่อคงประสิทธิภาพการดักจับควัน
✅ เปลี่ยนไส้กรองคาร์บอนทุก 6-12 เดือน ตามระดับการใช้งาน
✅ ตรวจสอบระบบ UV-C และ Ozone ทุก 6 เดือน เพื่อให้แน่ใจว่ายังทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
5. KRUGER มีระบบกรองอากาศที่หลากหลาย
✅ KRUGER มีระบบกรองอากาศที่หลากหลาย สำหรับครัวร้านอาหารทุกประเภท
✅ ESP เหมาะสำหรับร้านที่มีควันเยอะ และช่วยลดไขมันสะสมในปล่องควัน
✅ Activated Carbon Filter ช่วยลดกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
✅ UV-C และ Ozone Filter กำจัดเชื้อโรคและกลิ่นขั้นสูง
✅ การดูแลรักษาระบบกรองอากาศเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ