KRUGER เทคโนโลยีพัดลมดูดควัน ในการระบายอากาศ ร้านอาหาร โรงแรม



เทคโนโลยีพัดลมดูดควัน KRUGER ประสิทธิภาพและนวัตกรรมในการระบายอากาศ

KRUGER เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลด้านระบบพัดลมระบายอากาศ โดยเฉพาะพัดลมดูดควันที่ใช้ในร้านอาหาร โรงแรม และอุตสาหกรรมต่าง ๆ เทคโนโลยีที่ KRUGER ใช้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้การไหลเวียนของอากาศมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดการสะสมของควัน ไขมัน และกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์

การทําอาหารในร้านอาหารจีน ภาพสต็อก

หากมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การออกแบบครัว โปรดแจ้งให้ทราบได้เลยค่ะ! สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณา ติดต่อ

1. เทคโนโลยีการออกแบบใบพัดขั้นสูง

พัดลมดูดควัน KRUGER ใช้ ใบพัดแบบ Aerofoil หรือ Backward Curved ที่ให้แรงดูดสูง ลดเสียงรบกวน และช่วยประหยัดพลังงานมากกว่าระบบทั่วไป ใบพัดถูกออกแบบให้ลดแรงต้านของอากาศ ทำให้สามารถดูดควันได้เร็วขึ้นและระบายออกอย่างมีประสิทธิภาพ

2. มอเตอร์ประสิทธิภาพสูงและการควบคุมรอบพัดลม

KRUGER ใช้มอเตอร์แบบ EC Motor (Electronically Commutated Motor) ซึ่งสามารถปรับรอบหมุนได้ตามปริมาณควันที่เกิดขึ้น โดยใช้ Variable Frequency Drive (VFD) ในการควบคุม ช่วยให้ประหยัดพลังงาน ลดภาระของระบบไฟฟ้า และลดเสียงรบกวน

3. เทคโนโลยีการกรองอากาศเพื่อลดมลพิษ

พัดลมดูดควันของ KRUGER สามารถติดตั้งร่วมกับ ระบบกรองอากาศหลายชั้น เช่น

  • ไส้กรองคาร์บอน (Activated Carbon Filter) สำหรับดูดซับกลิ่น
  • Electrostatic Precipitator (ESP) สำหรับดักจับเขม่าควันและละอองน้ำมัน
  • UV-C และ Ozone Generator สำหรับฆ่าเชื้อและลดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์

4. โครงสร้างที่ทนทานต่อความร้อนและไขมัน

KRUGER ใช้วัสดุคุณภาพสูง เช่น สแตนเลสเกรด 304 หรือ 316 ที่ทนต่อความร้อนและการกัดกร่อนของไขมัน ลดการเกิดสนิมและช่วยให้ทำความสะอาดง่าย

5. Smart Monitoring & IoT Integration

KRUGER พัฒนา ระบบมอนิเตอร์อัจฉริยะ ที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบ IoT เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบสภาพการทำงานของพัดลมผ่านแอปพลิเคชันมือถือ ช่วยแจ้งเตือนเมื่อพัดลมต้องการการบำรุงรักษา

6. มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล

พัดลม KRUGER ได้รับการรับรองมาตรฐาน เช่น ISO 9001, AMCA, และ CE ทำให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์มีความปลอดภัย และประสิทธิภาพตามข้อกำหนดของอุตสาหกรรม

7. การใช้งานที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจอาหาร

KRUGER มีรุ่นพัดลมที่เหมาะกับ ร้านอาหาร, ครัวอุตสาหกรรม, ร้านปิ้งย่าง และเตาย่างแบบ Teppanyaki โดยออกแบบให้สามารถรองรับปริมาณควันที่มาก และลดความเสี่ยงของการสะสมไขมันที่เป็นสาเหตุของอัคคีภัย

พ่อครัวร้านอาหารตรวจสอบว่าการเตรียมอาหารเป็นอย่างไรในเตาอบ ภาพสต็อก

เทคโนโลยีพัดลมดูดควัน KRUGER โดดเด่นทั้งในเรื่อง การออกแบบใบพัด, การประหยัดพลังงาน, การกรองอากาศ, โครงสร้างที่ทนทาน และระบบอัจฉริยะ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับธุรกิจที่ต้องการระบบระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง

หากมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การออกแบบครัว โปรดแจ้งให้ทราบได้เลยค่ะ! สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณา ติดต่อ

การเลือกพัดลมดูดควันให้เหมาะกับร้านอาหาร

การเลือกพัดลมดูดควันที่เหมาะสมสำหรับร้านอาหารเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ครัวมีอากาศที่สะอาด ปลอดภัย ลดปัญหากลิ่น และลดความเสี่ยงจากควันที่อาจสะสมจนเป็นอันตราย การเลือกพัดลมที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดปัญหา เช่น การดูดควันไม่เพียงพอ เสียงรบกวนสูง หรือค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น

ภาพเหมือนของเชฟหนุ่มที่ทําอาหารบนเตาครัวเชิงพาณิชย์ ภาพสต็อก

1. ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกพัดลมดูดควัน

1.1 ขนาดและปริมาณอากาศที่ต้องดูดออก (Airflow Capacity – CFM)

  • พัดลมดูดควันต้องมีอัตราการไหลเวียนของอากาศที่เพียงพอ วัดเป็นลูกบาศก์ฟุตต่อนาที (CFM – Cubic Feet per Minute)
  • ร้านอาหารที่มีเตาย่าง เตาทอด หรือเตาแก๊สที่ใช้กำลังไฟสูงจะต้องใช้พัดลมที่มี CFM สูงกว่า
  • วิธีคำนวณง่าย ๆ:
    • เตาแก๊สทั่วไป: 100-150 CFM ต่อฟุตของเครื่องครัว
    • เตาปิ้งย่าง/เตาทอด: 200-250 CFM ต่อฟุตของเครื่องครัว

ตัวอย่าง: ถ้าเตามีขนาดกว้าง 4 ฟุต และเป็นเตาทอด ต้องใช้พัดลมที่มี CFM 800 – 1,000 CFM

1.2 ประเภทของพัดลมดูดควัน

พัดลมดูดควันมีหลายประเภทขึ้นอยู่กับโครงสร้างร้านอาหารและการติดตั้ง

  • พัดลมติดผนัง (Wall-Mounted Exhaust Fan) – เหมาะสำหรับครัวขนาดเล็กที่ต้องการระบายควันออกทางผนัง
  • พัดลมติดหลังคา (Rooftop Exhaust Fan) – นิยมใช้กับร้านอาหารที่ต้องการดูดควันออกจากตัวอาคารโดยตรง
  • พัดลมดูดควันแบบแรงเหวี่ยง (Centrifugal Fan) – เหมาะสำหรับครัวที่ต้องการแรงดูดสูงและลดเสียงรบกวน
  • พัดลมแบบ Axial Fan – ใช้สำหรับระบบที่มีระยะดูดควันสั้น ไม่ต้องการแรงดันสูง

1.3 การควบคุมเสียงรบกวน

  • ควรเลือกพัดลมที่มี ระดับเสียง (dB) ต่ำกว่า 75 dB
  • พัดลมแบบ Backward Curved หรือ Inline Fan จะช่วยลดเสียงได้ดีกว่าพัดลมทั่วไป

1.4 ระบบกรองอากาศและกำจัดกลิ่น

พัดลมดูดควันสำหรับร้านอาหารควรมีระบบกรองอากาศเพื่อป้องกันเขม่าควันและไขมันสะสม เช่น

  • ไส้กรองไขมัน (Grease Filter) – กรองไขมันและเศษอาหาร ลดการอุดตัน
  • ไส้กรองคาร์บอน (Activated Carbon Filter) – ช่วยลดกลิ่นควัน
  • Electrostatic Precipitator (ESP) – ดักจับอนุภาคขนาดเล็ก เช่น ควันน้ำมัน
  • UV-C และ Ozone Filter – ช่วยฆ่าเชื้อและลดกลิ่น

1.5 การเลือกวัสดุและความทนทาน

  • ควรเลือกพัดลมที่ทำจาก สแตนเลสเกรด 304 หรือ 316 เพราะทนความร้อนและการกัดกร่อนจากน้ำมัน
  • หลีกเลี่ยงพัดลมที่ทำจากเหล็กธรรมดาเพราะอาจเกิดสนิมและเสื่อมสภาพเร็ว

1.6 ความง่ายในการบำรุงรักษา

  • ระบบดูดควันต้องสามารถถอดทำความสะอาดง่าย
  • เลือกรุ่นที่มี ตัวบ่งชี้ความสกปรกของไส้กรอง หรือระบบแจ้งเตือนการบำรุงรักษา

2. แนะนำพัดลมดูดควันที่เหมาะกับประเภทของร้านอาหาร

ประเภทร้านอาหาร ประเภทพัดลมที่แนะนำ CFM ที่แนะนำ
ร้านอาหารทั่วไป Wall-Mounted Exhaust Fan / Inline Fan 500-1,500 CFM
ร้านปิ้งย่าง Rooftop Exhaust Fan + ESP Filter 1,500-3,000 CFM
ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด Centrifugal Fan + Carbon Filter 2,000-4,000 CFM
ร้านที่มีเตาทอด Centrifugal Fan + Grease Filter 2,500-4,500 CFM
ครัวโรงแรม Multi-Zone Exhaust System + UV Filter 4,000+ CFM

3. ระบบอัจฉริยะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพพัดลมดูดควัน

พัดลมดูดควันรุ่นใหม่มักมีระบบ Smart Control เช่น
Variable Speed Control (VSD) – ปรับระดับความแรงตามปริมาณควัน
IoT Monitoring – ตรวจสอบสถานะการทำงานผ่านแอป
Auto Cleaning System – ระบบล้างไส้กรองอัตโนมัติ

การเลือกพัดลมดูดควันสำหรับร้านอาหาร ต้องคำนึงถึง ขนาด, ประเภท, ระดับเสียง, ระบบกรองอากาศ, วัสดุ และความง่ายในการบำรุงรักษา เพื่อให้ร้านมีระบบระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพ ลดปัญหาควัน กลิ่น และช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ในครัว